นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google
เมื่อคุณใช้บริการของเรา คุณไว้วางใจให้เรารักษาข้อมูลของคุณ เราเข้าใจว่านี่คือความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่และพยายามอย่างยิ่งที่จะปกป้องข้อมูลของคุณ รวมถึงมอบอำนาจในการควบคุมข้อมูลให้แก่คุณ
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้มีไว้เพื่อช่วยให้คุณทราบประเภทข้อมูลที่เรารวบรวม เหตุผลที่เรารวบรวม รวมถึงวิธีที่คุณจะอัปเดต จัดการ ส่งออก และลบข้อมูลดังกล่าว
การตรวจสอบความเป็นส่วนตัว
หากกำลังต้องการปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
มีผลในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 | บันทึกเวอร์ชันอื่นๆ | ดาวน์โหลด PDF
เราสร้างบริการหลายอย่างที่ช่วยให้ผู้คนหลายล้านคนสำรวจและโต้ตอบกับโลกด้วยวิธีใหม่ๆ ได้ในทุกๆ วัน บริการของเรามีดังนี้
- แอป เว็บไซต์ และอุปกรณ์ของ Google เช่น Search, YouTube และ Google Home
- แพลตฟอร์มอย่างเบราว์เซอร์ Chrome และระบบปฏิบัติการ Android
- ผลิตภัณฑ์ที่ผสานรวมกับแอปและเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม เช่น โฆษณา ข้อมูลวิเคราะห์ และ Google Maps ที่ฝังอยู่
คุณใช้บริการของเราได้หลายวิธีเพื่อจัดการความเป็นส่วนตัว เช่น คุณลงชื่อสมัครใช้บัญชี Google ได้หากต้องการสร้างและจัดการเนื้อหาอย่างอีเมลและรูปภาพ หรือดูผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องยิ่งขึ้น และคุณยังใช้บริการของ Google ได้หลายอย่างแม้จะไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้หรือสร้างบัญชี เช่น การค้นหาใน Google หรือดูวิดีโอ YouTube นอกจากนี้ยังเลือกที่จะท่องเว็บแบบเป็นส่วนตัวได้ เช่น ใช้ Chrome ในโหมดไม่ระบุตัวตน และปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบริการต่างๆ ของเราเพื่อควบคุมข้อมูลที่เรารวบรวมและวิธีที่เราใช้ข้อมูลดังกล่าว
เราได้เพิ่มตัวอย่าง วิดีโอคำอธิบาย และคำจำกัดความของคำสำคัญเพื่อช่วยอธิบายให้เข้าใจอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย หากมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ โปรดติดต่อเรา
ข้อมูลที่ Google รวบรวม
เราต้องการให้คุณทราบประเภทของข้อมูลที่เรารวบรวมขณะที่คุณใช้บริการของเรา
เรารวบรวมข้อมูลเพื่อให้บริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้ทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลเบื้องต้นอย่างภาษาที่คุณเข้าใช้ ไปจนถึงสิ่งที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น โฆษณาที่คุณคิดว่าเป็นประโยชน์ ผู้คนที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณทางออนไลน์ หรือวิดีโอ YouTube ที่คุณอาจชอบ ข้อมูลที่ Google รวบรวมและวิธีที่เราจะใช้ข้อมูลนั้นจะขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณใช้บริการของเราและวิธีที่คุณจัดการการควบคุมความเป็นส่วนตัวของคุณ
เมื่อไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เราจะจัดเก็บข้อมูลที่รวบรวมไว้ด้วยตัวระบุที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งเชื่อมโยงกับเบราว์เซอร์ แอปพลิเคชัน หรืออุปกรณ์ที่คุณใช้อยู่ วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถทำสิ่งต่างๆ อย่างการรักษาค่ากำหนดในเซสชันการท่องเว็บ เช่น ภาษาที่คุณเลือก หรือดูว่าจะแสดงผลการค้นหาหรือโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้นโดยอิงตามกิจกรรมของคุณหรือไม่
เมื่อลงชื่อเข้าใช้ เราจะรวบรวมข้อมูลที่เราเก็บไว้ในบัญชี Google ของคุณด้วย ซึ่งเราจะปฏิบัติเหมือนเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลที่คุณสร้างหรือมอบให้กับเรา
เมื่อสร้างบัญชี Google คุณต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเรา ซึ่งรวมถึงชื่อและรหัสผ่านของคุณ คุณเลือกที่จะเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์หรือข้อมูลการชำระเงินลงในบัญชีได้ด้วย แม้จะไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google คุณก็อาจเลือกให้ข้อมูลกับเราได้ เช่น ที่อยู่อีเมลเพื่อรับการอัปเดตเกี่ยวกับบริการของเรา
เรารวบรวมเนื้อหาที่คุณสร้าง อัปโหลด หรือรับมาจากผู้อื่นเมื่อใช้บริการของเราด้วย เนื้อหาเหล่านี้รวมถึงสิ่งต่างๆ เช่น อีเมลที่คุณเขียนและได้รับ รูปภาพและวิดีโอที่คุณบันทึก เอกสารและสเปรดชีตที่คุณสร้าง และความคิดเห็นของคุณในวิดีโอ YouTube
ข้อมูลที่เรารวบรวมเมื่อคุณใช้บริการของเรา
แอป เบราว์เซอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ของคุณ
เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแอป เบราว์เซอร์ และอุปกรณ์ที่คุณใช้เพื่อเข้าถึงบริการของ Google ซึ่งช่วยให้เราให้บริการฟีเจอร์ต่างๆ อย่างการอัปเดตผลิตภัณฑ์อัตโนมัติและการหรี่แสงหน้าจอเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย
ข้อมูลที่เรารวบรวม ได้แก่ ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกัน ประเภทและการตั้งค่าเบราว์เซอร์ ประเภทและการตั้งค่าอุปกรณ์ ระบบปฏิบัติการ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ซึ่งรวมถึงชื่อผู้ให้บริการและหมายเลขโทรศัพท์ และหมายเลขเวอร์ชันแอปพลิเคชัน เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการโต้ตอบของแอป เบราว์เซอร์ และอุปกรณ์กับบริการของเรา ซึ่งรวมถึงที่อยู่ IP, รายงานข้อขัดข้อง, กิจกรรมระบบ ตลอดจนวันที่ เวลา และ URL ผู้อ้างอิงของคำขอของคุณ
เรารวบรวมข้อมูลนี้เมื่อบริการของ Google ในอุปกรณ์ติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของเรา เช่น เมื่อคุณติดตั้งแอปจาก Play Store หรือเมื่อบริการตรวจหาการอัปเดตอัตโนมัติ หากคุณใช้อุปกรณ์ Android ที่มีแอป Google อุปกรณ์จะติดต่อเซิร์ฟเวอร์ของ Google เป็นระยะๆ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และการเชื่อมต่อกับบริการของเรา ข้อมูลนี้รวมถึงประเภทอุปกรณ์และชื่อผู้ให้บริการ รายงานข้อขัดข้อง แอปที่คุณติดตั้ง และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้อุปกรณ์ Android โดยขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณ
กิจกรรมของคุณ
เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณในบริการของเรา ซึ่งเราใช้เพื่อทำสิ่งต่างๆ เช่น แนะนำวิดีโอ YouTube ที่คุณอาจชอบ ข้อมูลกิจกรรมที่เรารวบรวมอาจรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้
- ข้อความที่คุณค้นหา
- วิดีโอที่คุณดู
- การดูและการโต้ตอบกับเนื้อหาและโฆษณา
- ข้อมูลเสียงพูดและเสียง
- กิจกรรมการซื้อสินค้า
- ผู้ที่คุณสื่อสารหรือแชร์เนื้อหาด้วย
- กิจกรรมในเว็บไซต์และแอปของบุคคลที่สามที่ใช้บริการของเรา
- ประวัติการท่องเว็บของ Chrome ที่คุณซิงค์ไว้กับบัญชี Google
หากคุณใช้บริการของเราเพื่อโทรออกและรับสายหรือรับส่งข้อความ เราอาจรวบรวมข้อมูลบันทึกการโทรและการรับส่งข้อความ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขผู้โทร หมายเลขผู้รับ หมายเลขโอนสาย อีเมลของผู้ส่งและผู้รับ วันที่และเวลาในการโทรและรับส่งข้อความ ระยะเวลาในการโทร ข้อมูลการโอนสาย รวมทั้งประเภทและปริมาณของการโทรและการรับส่งข้อความ
คุณไปที่บัญชี Google เพื่อหาและจัดการข้อมูลกิจกรรมที่บันทึกไว้ในบัญชีได้
ข้อมูลตำแหน่งของคุณ
เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของคุณเมื่อคุณใช้บริการของเรา ซึ่งจะช่วยเราในการให้บริการฟีเจอร์ต่างๆ เช่น เส้นทางการขับขี่ ผลการค้นหาสิ่งต่างๆ ที่อยู่ใกล้คุณ และโฆษณาที่อิงตามตำแหน่งทั่วไปของคุณ
อาจมีการระบุตำแหน่งของคุณได้อย่างแม่นยำต่างกันไปด้วยวิธีต่อไปนี้
- GPS และข้อมูลเซ็นเซอร์อื่นๆ จากอุปกรณ์ของคุณ
- ที่อยู่ IP
- กิจกรรมในบริการของ Google เช่น การค้นหาและสถานที่ที่คุณติดป้ายกำกับอย่างเช่นบ้านหรือที่ทำงาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ใกล้อุปกรณ์ของคุณ เช่น จุดเชื่อมต่อ Wi-Fi, เสาสัญญาณมือถือ และอุปกรณ์ที่เปิดใช้บลูทูธ
ประเภทข้อมูลตำแหน่งที่เรารวบรวมและระยะเวลาที่เก็บข้อมูลนั้นอาจขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์และบัญชี เช่น คุณอาจเปิดหรือปิดตำแหน่งของอุปกรณ์ Android โดยใช้แอปการตั้งค่าของอุปกรณ์ คุณอาจเปิดประวัติตำแหน่งด้วยหากต้องการสร้างแผนที่ส่วนตัวของสถานที่ที่คุณไปพร้อมกับอุปกรณ์ที่คุณลงชื่อเข้าใช้ และหากการตั้งค่ากิจกรรมบนเว็บและแอปของคุณเปิดใช้งานอยู่ การค้นหาและกิจกรรมอื่นๆ ของคุณจากบริการของ Google ซึ่งอาจมีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งจะได้รับการบันทึกในบัญชี Google ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราใช้ข้อมูลตำแหน่ง
ในบางกรณี Google อาจรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณจากแหล่งที่มาที่เข้าถึงได้แบบสาธารณะด้วย เช่น หากชื่อคุณปรากฏในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เครื่องมือค้นหาของ Google อาจจัดทำดัชนีบทความดังกล่าวและแสดงให้ผู้ใช้คนอื่นเห็นหากมีการค้นหาชื่อของคุณ เรายังอาจรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณจากพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้ เช่น บริการไดเรกทอรีซึ่งให้ข้อมูลทางธุรกิจสำหรับนำไปแสดงในบริการของ Google หรือพาร์ทเนอร์การตลาดที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของบริการทางธุรกิจของเรา ตลอดจนพาร์ทเนอร์ความปลอดภัยที่ให้ข้อมูลในการป้องกันการละเมิด นอกจากนี้ เรายังได้รับข้อมูลจากพาร์ทเนอร์โฆษณาเพื่อให้บริการโฆษณาและบริการวิจัยในนามของผู้ลงโฆษณาด้วย
เราใช้เทคโนโลยีหลายอย่างเพื่อรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ซึ่งรวมถึงคุกกี้ พิกเซลแท็ก พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่อง เช่น พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเว็บในเบราว์เซอร์หรือแคชข้อมูลแอปพลิเคชัน ฐานข้อมูล และบันทึกเซิร์ฟเวอร์
เหตุใด Google จึงต้องรวบรวมข้อมูล
เราใช้ข้อมูลเพื่อสร้างบริการที่ดียิ่งขึ้น
เราใช้ข้อมูลที่เรารวบรวมจากบริการทั้งหมดของเราเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
ให้บริการของเรา
เราใช้ข้อมูลเพื่อให้บริการของเรา เช่น การประมวลผลคำที่คุณค้นหาเพื่อแสดงผลการค้นหาหรือช่วยคุณแชร์เนื้อหาโดยแนะนำผู้รับจากรายชื่อติดต่อ
ดูแลรักษาและปรับปรุงบริการของเรา
เราใช้ข้อมูลของคุณเพื่อดูแลให้บริการของเราทำงานตามที่คาดหวังไว้ด้วย เช่น การติดตามการหยุดให้บริการหรือการแก้ปัญหาที่คุณรายงานถึงเรา และเราใช้ข้อมูลของคุณเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของเรา เช่น ศึกษาข้อความค้นหาที่มีการสะกดผิดมากที่สุดเพื่อช่วยเราปรับปรุงฟีเจอร์ตรวจตัวสะกดที่ใช้ในบริการทั้งหมดของเรา
พัฒนาบริการใหม่ๆ
เราใช้ข้อมูลซึ่งรวบรวมมาจากบริการที่มีเพื่อช่วยเราพัฒนาบริการใหม่ๆ เช่น การศึกษาวิธีที่ผู้คนจัดระเบียบรูปภาพของตนใน Picasa ซึ่งเป็นแอปรูปภาพแอปแรกของ Google ช่วยให้เราออกแบบและเปิดตัว Google Photos ได้
ให้บริการที่ปรับแต่งในแบบของคุณ ซึ่งรวมถึงเนื้อหาและโฆษณา
เราใช้ข้อมูลที่เรารวบรวมมาเพื่อปรับแต่งบริการให้แก่คุณ รวมถึงให้คำแนะนำ เนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ และผลการค้นหาที่กำหนดเอง เช่น การตรวจสอบความปลอดภัย มอบเคล็ดลับด้านความปลอดภัยที่ปรับให้เหมาะกับวิธีที่คุณใช้ผลิตภัณฑ์ Google และ Google Play ใช้ข้อมูลอย่างแอปที่คุณติดตั้งอยู่และวิดีโอที่คุณดูใน YouTube เพื่อแนะนำแอปใหม่ๆ ที่คุณอาจชอบ
เราอาจแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยอิงตามความสนใจของคุณด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า เช่น หากคุณค้นหา “จักรยานเสือภูเขา” คุณอาจเห็นโฆษณาอุปกรณ์กีฬาเมื่อท่องเว็บไซต์ที่แสดงโฆษณาจาก Google คุณควบคุมข้อมูลที่เราใช้แสดงโฆษณาให้คุณดูได้โดยไปที่เครื่องมือตั้งค่าโฆษณา
- เราไม่แสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยอิงตามหมวดหมู่ที่ละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ศาสนา รสนิยมทางเพศ หรือสุขภาพ
- เราจะไม่แสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้โดยอิงตามเนื้อหาจากไดรฟ์, Gmail หรือ Photos
- เราจะไม่แชร์ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนของคุณได้กับผู้ลงโฆษณา เช่น ชื่อหรืออีเมล เว้นแต่คุณขอให้เราแชร์ เช่น หากคุณเห็นโฆษณาร้านดอกไม้ใกล้เคียงและเลือกปุ่ม “แตะเพื่อโทร” เราจะโทรหาที่ร้านให้คุณและอาจแชร์หมายเลขโทรศัพท์ของคุณกับร้านดอกไม้
วัดประสิทธิภาพ
เราใช้ข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และการวัดผลเพื่อทำความเข้าใจวิธีที่ผู้คนใช้บริการของเรา เช่น เราวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าชมเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบผลิตภัณฑ์ และการดำเนินการอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เรายังใช้ข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาที่คุณโต้ตอบด้วยเพื่อช่วยให้ผู้ลงโฆษณาทราบถึงประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาของตน เราใช้เครื่องมือหลายอย่างในการดำเนินการนี้ รวมถึง Google Analytics เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์หรือใช้งานแอปที่ใช้ Google Analytics ลูกค้า Google Analytics อาจเลือกเปิดให้ Google ลิงก์ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณจากเว็บไซต์หรือแอปดังกล่าวกับกิจกรรมจากเว็บไซต์หรือแอปอื่นๆ ที่ใช้บริการโฆษณาของเรา
สื่อสารกับคุณ
เราใช้ข้อมูลที่เรารวบรวม เช่น ที่อยู่อีเมล เพื่อโต้ตอบกับคุณโดยตรง เช่น เราอาจส่งการแจ้งเตือนให้คุณหากตรวจพบกิจกรรมน่าสงสัย เช่น การพยายามลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google จากตำแหน่งที่ผิดปกติ หรือเราอาจแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงหรือการปรับปรุงบริการที่กำลังจะเกิดขึ้น และหากคุณติดต่อ Google เราจะบันทึกคำขอของคุณไว้เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่คุณพบ
ปกป้อง Google, ผู้ใช้ และสาธารณชน
เราใช้ข้อมูลเพื่อช่วยปรับปรุงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของบริการของเรา ซึ่งรวมถึงการตรวจหา การป้องกัน และการตอบสนองต่อการประพฤติมิชอบ การละเมิด ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และปัญหาทางเทคนิคที่อาจเป็นอันตรายต่อ Google, ผู้ใช้ หรือสาธารณชน
เราใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อประมวลผลข้อมูลของคุณตามวัตถุประสงค์เหล่านี้ เราใช้ระบบอัตโนมัติที่วิเคราะห์เนื้อหาของคุณเพื่อมอบผลการค้นหาที่กำหนดเอง โฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล หรือฟีเจอร์อื่นๆ ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับวิธีที่คุณใช้บริการของเรา และเราวิเคราะห์เนื้อหาของคุณเพื่อช่วยตรวจหาการละเมิด เช่น สแปม มัลแวร์ และเนื้อหาผิดกฎหมาย เราใช้อัลกอริทึมเพื่อหารูปแบบในข้อมูลด้วย เช่น Google แปลภาษาช่วยให้ผู้คนสื่อสารระหว่างภาษาต่างๆ ได้โดยตรวจหารูปแบบภาษาที่พบบ่อยในวลีที่คุณขอให้บริการนี้แปล
เราอาจรวมข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมจากบริการต่างๆ ของเราและอุปกรณ์ของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ที่อธิบายไว้ด้านบน เช่น หากคุณดูวิดีโอมือกีต้าร์ใน YouTube คุณอาจเห็นโฆษณาคอร์สเรียนกีต้าร์ในเว็บไซต์ที่ใช้บริการของเรา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าบัญชีของคุณ เราอาจเชื่อมโยงกิจกรรมของคุณในเว็บไซต์และแอปอื่นๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อปรับปรุงบริการของ Google และโฆษณาที่แสดงโดย Google
หากผู้ใช้รายอื่นมีอีเมลของคุณอยู่แล้วหรือมีข้อมูลอื่นที่ระบุตัวคุณ เราอาจแสดงข้อมูลบัญชี Google สาธารณะของคุณ เช่น ชื่อและรูปภาพให้พวกเขาเห็น วิธีนี้ช่วยให้ผู้อื่นทราบเมื่อได้รับอีเมลที่คุณเป็นผู้ส่ง เป็นต้น
เราจะขอคำยินยอมจากคุณก่อนใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
การควบคุมความเป็นส่วนตัวของคุณ
คุณมีตัวเลือกเกี่ยวกับข้อมูลที่เรารวบรวมและวิธีที่เราจะนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้
ส่วนนี้จะอธิบายส่วนควบคุมที่สำคัญสำหรับการจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณในบริการของเรา คุณไปที่การตรวจสอบความเป็นส่วนตัวซึ่งเปิดโอกาสให้ตรวจสอบและปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่สำคัญได้ด้วย นอกจากเครื่องมือเหล่านี้ เรามีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเฉพาะในผลิตภัณฑ์ของเราด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในคู่มือความเป็นส่วนตัวของผลิตภัณฑ์
ไปที่ส่วน "การตรวจสอบความเป็นส่วนตัว"
การจัดการ การตรวจสอบ และการอัปเดตข้อมูลของคุณ
เมื่อลงชื่อเข้าใช้ คุณจะตรวจสอบและอัปเดตข้อมูลได้โดยไปยังบริการที่คุณใช้ เช่น ทั้ง Photos และไดรฟ์ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการเนื้อหาบางประเภทที่คุณบันทึกไว้กับ Google
เราสร้างเครื่องมือให้คุณตรวจสอบและควบคุมข้อมูลที่บันทึกไว้ในบัญชี Google ด้วย โดยบัญชี Google จะมีเครื่องมือต่างๆ ต่อไปนี้
การควบคุมความเป็นส่วนตัว
ส่วนควบคุมกิจกรรม
เลือกประเภทกิจกรรมที่คุณต้องการบันทึกลงในบัญชี ตัวอย่างเช่น หากเปิดประวัติการใช้งาน YouTube ไว้ ระบบจะบันทึกวิดีโอที่คุณดูและสิ่งที่ค้นหาไว้ในบัญชี เพื่อให้คุณได้รับวิดีโอแนะนำที่ดีขึ้นและจำจุดที่คุณดูค้างไว้ และหากเปิดกิจกรรมบนเว็บและแอปไว้ ระบบจะบันทึกการค้นหาและกิจกรรมที่คุณทำจากบริการอื่นๆ ของ Google ไว้ในบัญชี เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณมากขึ้น เช่น การค้นหาที่เร็วขึ้นและคำแนะนำแอปและเนื้อหาที่เป็นประโยชน์มากขึ้น กิจกรรมบนเว็บและแอปยังมีการตั้งค่าย่อยที่ให้คุณควบคุมได้ว่าจะให้ระบบบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณในเว็บไซต์ แอป และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้บริการของ Google (เช่น แอปที่คุณติดตั้งและใช้ใน Android) ในบัญชี Google เพื่อช่วยปรับปรุงบริการของ Google หรือไม่
เครื่องมือตั้งค่าโฆษณา
จัดการค่ากำหนดเกี่ยวกับโฆษณาที่แสดงให้คุณดูใน Google และในเว็บไซต์และแอปที่เป็นพาร์ทเนอร์ในการแสดงโฆษณากับ Google คุณแก้ไขความสนใจ เลือกว่าจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำให้โฆษณาเกี่ยวข้องกับคุณมากขึ้นหรือไม่ และเปิดหรือปิดบริการโฆษณาบางอย่างได้
เกี่ยวกับคุณ
จัดการข้อมูลส่วนบุคคลในบัญชี Google และควบคุมว่าใครบ้างในบริการของ Google ที่สามารถเห็นข้อมูลได้
การแชร์คำแนะนำ
เลือกว่าจะให้ชื่อและรูปภาพปรากฏข้างๆ กิจกรรมของคุณหรือไม่ เช่น รีวิวและคำแนะนำต่างๆ ที่ปรากฏในโฆษณา
เว็บไซต์และแอปที่ใช้บริการของ Google
จัดการข้อมูลที่เว็บไซต์และแอปซึ่งใช้บริการของ Google เช่น Google Analytics สามารถแชร์กับ Google ได้เมื่อคุณเข้าชมหรือโต้ตอบกับบริการของเว็บไซต์และแอปดังกล่าว
ดูวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์หรือแอปที่ใช้บริการของเรา
วิธีตรวจสอบและอัปเดตข้อมูลของคุณ
กิจกรรมของฉัน
ส่วน "กิจกรรมของฉัน" ช่วยให้คุณตรวจสอบและควบคุมข้อมูลที่บันทึกไว้ในบัญชี Google เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้และใช้บริการของ Google ได้ เช่น การค้นหาของคุณหรือการเข้าชม Google Play คุณสามารถเรียกดูตามวันที่และตามหัวข้อ และลบกิจกรรมบางอย่างหรือกิจกรรมทั้งหมดก็ได้
Google แดชบอร์ด
Google แดชบอร์ดช่วยให้คุณจัดการข้อมูลที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์บางอย่าง
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
จัดการข้อมูลติดต่อของคุณ เช่น ชื่อ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์
เมื่อออกจากระบบแล้ว คุณจัดการข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ได้ดังต่อไปนี้
- การปรับเปลี่ยนการค้นหาในแบบของคุณเมื่อออกจากระบบ: เลือกว่าจะให้เราใช้กิจกรรมการค้นหาของคุณเพื่อมอบผลการค้นหาและคำแนะนำที่เกี่ยวข้องมากขึ้นให้แก่คุณหรือไม่
- การตั้งค่า YouTube: หยุดชั่วคราวและลบประวัติการค้นหา YouTube รวมถึงประวัติการดู YouTube
- การตั้งค่าโฆษณา: จัดการค่ากำหนดเกี่ยวกับโฆษณาที่แสดงให้คุณดูใน Google และในเว็บไซต์และแอปที่เป็นพาร์ทเนอร์ในการแสดงโฆษณากับ Google
การส่งออก การนำออก และการลบข้อมูลของคุณ
คุณส่งออกสำเนาเนื้อหาในบัญชี Google ได้หากต้องการสำรองข้อมูลหรือใช้กับบริการอื่นนอก Google
คุณขอนำเนื้อหาออกจากบริการบางอย่างของ Google ได้ด้วยตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้
คุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้เพื่อลบข้อมูลของคุณ
- ลบเนื้อหาจากบริการบางอย่างของ Google
- ค้นหาแล้วลบข้อมูลบางรายการออกจากบัญชีของคุณโดยใช้ส่วนกิจกรรมของฉัน
- ลบผลิตภัณฑ์ Google บางอย่าง ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
- ลบบัญชี Google ของคุณทั้งบัญชี
สุดท้าย เครื่องมือจัดการบัญชีที่ไม่ใช้งานช่วยให้คุณอนุญาตให้ผู้อื่นเข้าถึงบางส่วนในบัญชี Google ของคุณในกรณีที่คุณเข้าถึงบัญชีไม่ได้โดยไม่คาดคิด
วิธีอื่นๆ ในการควบคุมข้อมูลที่ Google รวบรวมไว้ ไม่ว่าคุณจะลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google หรือไม่ ดังต่อไปนี้
- การตั้งค่าเบราว์เซอร์: เช่น คุณกำหนดค่าให้เบราว์เซอร์แจ้งเมื่อ Google ตั้งค่าคุกกี้ในเบราว์เซอร์ได้ และกำหนดค่าให้เบราว์เซอร์บล็อกคุกกี้ทั้งหมดจากบางโดเมนหรือทุกโดเมนได้ด้วย แต่โปรดทราบว่าบริการของเราใช้คุกกี้เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้องสำหรับสิ่งต่างๆ เช่น การจำค่ากำหนดภาษาของคุณ
- การตั้งค่าระดับอุปกรณ์: อุปกรณ์อาจมีส่วนควบคุมที่ระบุข้อมูลที่เรารวบรวม เช่น คุณอาจแก้ไขการตั้งค่าตำแหน่งในอุปกรณ์ Android
การแชร์ข้อมูลของคุณ
เมื่อคุณแชร์ข้อมูลของคุณ
บริการของเราหลายๆ อย่างให้คุณแชร์ข้อมูลกับผู้อื่น และคุณควบคุมวิธีการแชร์ข้อมูลได้ เช่น คุณแชร์วิดีโอใน YouTube แบบสาธารณะได้หรือเลือกจะเก็บวิดีโอไว้แบบเป็นส่วนตัวก็ได้ โปรดทราบว่าเมื่อคุณแชร์ข้อมูลแบบสาธารณะ เครื่องมือค้นหาอาจเข้าถึงเนื้อหาของคุณได้ รวมถึง Google Search ด้วย
เมื่อลงชื่อเข้าใช้และโต้ตอบกับบริการบางอย่างของ Google เช่น การแสดงความคิดเห็นในวิดีโอ YouTube หรือการรีวิวแอปใน Play ชื่อและรูปภาพของคุณจะปรากฏอยู่ข้างๆ กิจกรรมเหล่านั้น เราอาจแสดงข้อมูลนี้ในโฆษณาด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าการแชร์คำแนะนำของคุณ
เมื่อ Google แชร์ข้อมูลของคุณ
เราไม่แชร์ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับบริษัท องค์กร หรือบุคคลทั่วไปนอก Google ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้
เมื่อได้รับความยินยอมจากคุณ
เราจะแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลนอก Google เมื่อได้รับคำยินยอมจากคุณ เช่น หากคุณใช้ Google Home เพื่อดำเนินการจองผ่านบริการการจอง เราจะขอสิทธิ์ก่อนที่จะแชร์ชื่อหรือหมายเลขโทรศัพท์ของคุณกับร้านอาหาร เราจะขอคำยินยอมอย่างชัดแจ้งจากคุณเพื่อแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
เมื่อมีผู้ดูแลระบบโดเมน
หากคุณเป็นนักเรียน/นักศึกษาหรือทำงานในองค์กรที่ใช้บริการของ Google ผู้ดูแลระบบโดเมนและตัวแทนจำหน่ายที่จัดการบัญชีจะมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี Google ของคุณ บุคคลดังกล่าวอาจดำเนินการต่อไปนี้ได้
- เข้าถึงและเก็บรักษาข้อมูลที่เก็บไว้ในบัญชีของคุณ เช่น อีเมล
- ดูสถิติเกี่ยวกับบัญชีของคุณ เช่น จำนวนแอปที่คุณติดตั้ง
- เปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีของคุณ
- ระงับหรือยกเลิกการเข้าถึงบัญชีของคุณ
- รับข้อมูลบัญชีของคุณเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้ ระเบียบข้อบังคับ กระบวนการทางกฎหมาย หรือการร้องขอข้อมูลจากทางราชการ
- จำกัดความสามารถในการลบหรือแก้ไขข้อมูลหรือการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของคุณ
สำหรับการประมวลผลภายนอก
เราให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทในเครือและธุรกิจหรือบุคคลที่ไว้วางใจได้อื่นๆ เพื่อให้ประมวลผลข้อมูลแก่เรา โดยดำเนินการตามวิธีการและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา รวมถึงมาตรการการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับและการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น เราใช้ผู้ให้บริการเพื่อช่วยในการดำเนินการศูนย์ข้อมูล ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการ ปรับปรุงกระบวนการทำธุรกิจภายใน และให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่ลูกค้าและผู้ใช้ เรายังใช้ผู้ให้บริการเพื่อช่วยในการตรวจสอบเนื้อหาของวิดีโอ YouTube เพื่อความปลอดภัยของสาธารณะ รวมถึงวิเคราะห์และฟังตัวอย่างเสียงบันทึกของผู้ใช้เพื่อช่วยปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจำเสียงของ Google อีกด้วย
สำหรับเหตุผลทางกฎหมาย
เราจะแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลออกนอก Google หากเราเชื่อโดยสุจริตว่าการเข้าถึง การใช้ การเก็บรักษา หรือการเปิดเผยข้อมูลนั้นมีเหตุจำเป็นอันสมควรเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
- เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ ระเบียบข้อบังคับ กระบวนการทางกฎหมาย หรือการร้องขอข้อมูลจากทางราชการ เราแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและประเภทคำขอที่ได้รับจากรัฐบาลในรายงานเพื่อความโปร่งใสของเรา
- บังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการตรวจสอบการละเมิดที่อาจเกิดขึ้น
- ตรวจจับ ป้องกัน หรือระบุการประพฤติมิชอบ ปัญหาด้านความปลอดภัยหรือด้านเทคนิค
- ป้องกันอันตรายต่อสิทธิ์ ทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของ Google, ผู้ใช้ของเรา หรือสาธารณชนตามที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาต
เราอาจแชร์ข้อมูลซึ่งไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัวที่สามารถระบุตัวตนได้สู่สาธารณะและกับพาร์ทเนอร์ของเรา เช่น ผู้เผยแพร่โฆษณา ผู้ลงโฆษณา นักพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือผู้ถือสิทธิ์ เช่น เราจะแชร์ข้อมูลแบบสาธารณะเพื่อแสดงเทรนด์เกี่ยวกับการใช้บริการของเราโดยทั่วไป เราอนุญาตให้พาร์ทเนอร์บางรายรวบรวมข้อมูลจากเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ของคุณเพื่อการโฆษณาและการวัดผลโดยใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกันของพาร์ทเนอร์แต่ละรายเองด้วย
หาก Google มีส่วนในการควบรวม การได้มา หรือการขายสินทรัพย์ เราจะยังคงรักษาข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ให้เป็นความลับและแจ้งให้ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบทราบก่อนที่จะโอนข้อมูลส่วนบุคคลหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายความเป็นส่วนตัวอื่น
การรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย
บริการของเรามีฟีเจอร์ความปลอดภัยเพื่อช่วยปกป้องข้อมูลของคุณ
ผลิตภัณฑ์ Google ทั้งหมดมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะคอยปกป้องข้อมูลของคุณอยู่เสมอ ข้อมูลเชิงลึกที่เราได้รับจากการดูแลรักษาบริการของเราช่วยให้ตรวจพบและบล็อกภัยคุกคามด้านความปลอดภัยไม่ให้เข้าถึงคุณได้โดยอัตโนมัติ และหากเราตรวจพบความเสี่ยงที่คุณควรทราบ เราจะแจ้งให้คุณทราบและช่วยนำคุณผ่านขั้นตอนต่างๆ ให้ได้รับการป้องกันมากขึ้น
เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องคุณและ Google จากการเข้าถึง การเปลี่ยนแปลง การเปิดเผย หรือการทำลายข้อมูลที่เราเก็บรักษาโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยดำเนินการดังต่อไปนี้
- เราใช้การเข้ารหัสลับเพื่อดูแลให้ข้อมูลของคุณเป็นส่วนตัวระหว่างการส่ง
- เราให้บริการฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมาย เช่น Safe Browsing, การตรวจสอบความปลอดภัย และการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน เพื่อช่วยปกป้องบัญชีของคุณ
- เราตรวจสอบการเก็บรวบรวมข้อมูล พื้นที่จัดเก็บข้อมูลและหลักปฏิบัติในการประมวลผล รวมถึงมาตรการความปลอดภัยทางกายภาพ เพื่อป้องกันการเข้าถึงระบบที่ไม่ได้รับอนุญาต
- เราจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้สำหรับพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของ Google ที่ต้องการข้อมูลนั้นเพื่อทำการประมวลผลข้อมูล โดยผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงนี้ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามสัญญาที่เข้มงวด และอาจถูกลงโทษหรือเลิกจ้างหากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว
การส่งออกและการลบข้อมูลของคุณ
คุณส่งออกสำเนาข้อมูลหรือลบข้อมูลออกจากบัญชี Google ได้ทุกเมื่อ
คุณส่งออกสำเนาเนื้อหาในบัญชี Google ได้หากต้องการสำรองข้อมูลหรือใช้กับบริการอื่นนอก Google
คุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้เพื่อลบข้อมูลของคุณ
- ลบเนื้อหาจากบริการบางอย่างของ Google
- ค้นหาแล้วลบข้อมูลบางรายการออกจากบัญชีของคุณโดยใช้ส่วนกิจกรรมของฉัน
- ลบผลิตภัณฑ์ Google บางอย่าง ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
- ลบบัญชี Google ของคุณทั้งบัญชี
การเก็บรักษาข้อมูลของคุณ
เราเก็บรักษาข้อมูลที่เรารวบรวมไว้ในระยะเวลาที่แตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับว่าเป็นข้อมูลอะไร เรานำข้อมูลไปใช้อย่างไร และคุณกำหนดการตั้งค่าไว้อย่างไร ดังนี้
- คุณลบข้อมูลบางอย่างได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เช่น เนื้อหาที่คุณสร้างหรืออัปโหลด และยังลบข้อมูลกิจกรรมที่บันทึกในบัญชี หรือเลือกให้ระบบลบข้อมูลโดยอัตโนมัติเมื่อผ่านระยะเวลาที่กำหนดไว้ก็ได้
- ข้อมูลอื่นๆ จะถูกลบออกจากระบบ หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยอัตโนมัติหลังจากพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่น ข้อมูลโฆษณา ในบันทึกของเซิร์ฟเวอร์
- เราเก็บข้อมูลบางอย่างไว้จนกว่าคุณจะลบบัญชี Google เช่น ข้อมูลความถี่ที่คุณใช้บริการของเรา
- และเราจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าข้อมูลอื่นๆ หากจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือกฎหมายโดยชอบตามกฎหมาย เช่น เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกันการละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน
เมื่อคุณลบข้อมูล เราจะทำตามขั้นตอนการลบเพื่อดูแลให้มีการนำข้อมูลของคุณทั้งหมดออกจากเซิร์ฟเวอร์ของเราอย่างปลอดภัยหรือเก็บรักษาไว้ในรูปแบบที่ทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้เท่านั้น โดยเราพยายามดูแลให้บริการของเราป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกลบออกโดยไม่ได้ตั้งใจหรือโดยโปรแกรมอันตราย ด้วยเหตุนี้ จึงอาจมีความล่าช้าเกิดขึ้นเมื่อคุณลบข้อมูลบางอย่างและเมื่อสำเนาข้อมูลถูกลบออกจากระบบที่มีการใช้งานและมีการสำรองข้อมูลของเรา
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลของ Google รวมถึงระยะเวลาที่เราใช้ในการลบข้อมูลของคุณ
การปฏิบัติตามข้อกำหนดและการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล
เราตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นประจำและดูแลว่าเราจะประมวลผลข้อมูลของคุณด้วยวิธีการที่ปฏิบัติตามนโยบายนี้
การโอนข้อมูล
เราดูแลรักษาเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ข้อมูลของคุณจึงอาจได้รับการประมวลผลในเซิร์ฟเวอร์ซึ่งอยู่นอกประเทศที่คุณอาศัยอยู่ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยบางประเทศให้การคุ้มครองข้อมูลมากกว่าประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะมีการประมวลผลข้อมูลของคุณที่ใด เราก็จะใช้การคุ้มครองเดียวกันตามที่อธิบายไว้ในนโยบายนี้ รวมถึงปฏิบัติตามกรอบกฎหมายด้านการโอนข้อมูลด้วย
เมื่อได้รับคำร้องแบบลายลักษณ์อักษรที่เป็นทางการ เราจะตอบสนองด้วยการติดต่อผู้ส่งคำร้อง เราทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลในท้องถิ่นเพื่อแก้ปัญหาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูลของคุณที่เราตกลงกับคุณโดยตรงไม่ได้
ข้อกำหนดของรัฐแคลิฟอร์เนีย
กฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Consumer Privacy Act หรือ CCPA) กำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลบางอย่างสำหรับผู้ที่พำนักอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจวิธีที่ Google จัดการกับข้อมูลของคุณ ดังนี้
- เราอธิบายหมวดหมู่ของข้อมูลที่ Google รวบรวมและแหล่งที่มาของข้อมูลดังกล่าวไว้ในส่วนข้อมูลที่ Google รวบรวม
- เราอธิบายวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลไว้ในส่วนเหตุใด Google จึงต้องรวบรวมข้อมูล
- เราอธิบายเกี่ยวกับเวลาที่ Google อาจแชร์ข้อมูลไว้ในส่วนการแชร์ข้อมูลของคุณ Google จะไม่ขายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
CCPA ยังให้สิทธิขอข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่ Google รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณด้วย โดยให้สิทธิคุณในการเข้าถึงข้อมูลของคุณเองและขอให้ Google ลบข้อมูลดังกล่าว และ CCPA ยังให้สิทธิในการไม่ถูกเลือกปฏิบัติเมื่อคุณใช้สิทธิในความเป็นส่วนตัวของคุณด้วย
เราอธิบายตัวเลือกที่คุณมีในการจัดการความเป็นส่วนตัวและข้อมูลในบริการต่างๆ ของ Google ไว้ในการควบคุมความเป็นส่วนตัวของคุณ คุณใช้สิทธิของคุณได้โดยใช้การควบคุมเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึง ตรวจสอบ อัปเดต และลบข้อมูลของคุณ ตลอดจนส่งออกและดาวน์โหลดสำเนาข้อมูลดังกล่าวได้ เมื่อคุณใช้สิทธิ เราจะตรวจสอบคำขอของคุณโดยยืนยันว่าคุณลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ของตนเองอยู่หรือไม่ หากมีคำถามหรือคำขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิภายใต้ CCPA คุณ (หรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาต) อาจติดต่อ Google ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google จัดการคำขอเกี่ยวกับ CCPA ได้ดัวย
CCPA กำหนดให้มีการอธิบายแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลโดยใช้หมวดหมู่ที่เจาะจง ตารางนี้ใช้หมวดหมู่เหล่านี้เพื่อจัดระเบียบข้อมูลในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
หมวดหมู่ของข้อมูลส่วนบุคคลที่เรารวบรวม
ตัวระบุ เช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ของคุณ ตลอดจนตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันซึ่งเชื่อมโยงกับเบราว์เซอร์ แอปพลิเคชัน หรืออุปกรณ์ที่คุณใช้งาน
ข้อมูลประชากร เช่น อายุ, เพศ และภาษาของคุณ
ข้อมูลเชิงพาณิชย์ เช่น ข้อมูลการชำระเงิน และประวัติการซื้อสินค้าที่คุณทำในบริการของ Google
ข้อมูลไบโอเมตริก หากคุณเลือกที่จะระบุข้อมูลเหล่านี้ไว้ เช่น ลายนิ้วมือในการศึกษาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Google
ข้อมูลกิจกรรมในอินเทอร์เน็ต เครือข่าย และกิจกรรมอื่นๆ เช่น ข้อความค้นหา การดู และการโต้ตอบกับเนื้อหาและโฆษณาต่างๆ ประวัติการท่องเว็บใน Chrome ที่คุณซิงค์ไว้กับบัญชี Google ข้อมูลเกี่ยวกับการโต้ตอบของแอป เบราว์เซอร์ และอุปกรณ์ของคุณกับบริการของเรา (เช่น ที่อยู่ IP, รายงานข้อขัดข้อง และกิจกรรมของระบบ) ตลอดจนกิจกรรมในเว็บไซต์และแอปของบุคคลที่สามที่ใช้บริการของเรา คุณตรวจสอบและควบคุมข้อมูลกิจกรรมที่จัดเก็บไว้ในบัญชี Google ได้ที่กิจกรรมของฉัน
ข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ เช่น ข้อมูลที่อาจกำหนดโดย GPS, ที่อยู่ IP และข้อมูลอื่นๆ จากเซ็นเซอร์ในอุปกรณ์หรือรอบๆ อุปกรณ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์และการตั้งค่าบัญชี ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลตำแหน่ง
ข้อมูลเสียง อิเล็กทรอนิกส์ ภาพ และข้อมูลที่คล้ายกัน เช่น ข้อมูลเสียงพูดและเสียง
ข้อมูลวิชาชีพ การจ้างงาน และการศึกษา เช่น ข้อมูลที่คุณระบุหรือข้อมูลที่องค์กรซึ่งคุณศึกษาหรือทำงานอยู่เป็นผู้ดูแลรักษาโดยใช้บริการของ Google
ข้อมูลอื่นๆ ที่คุณสร้างหรือระบุไว้ เช่น เนื้อหาที่คุณสร้าง อัปโหลด หรือได้รับ (เช่น รูปภาพและวิดีโอ หรืออีเมล เอกสาร และสเปรดชีต) Google แดชบอร์ดช่วยให้คุณจัดการข้อมูลที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์บางอย่าง
การอนุมานที่ได้จากข้อมูลข้างต้น เช่น หมวดหมู่โฆษณาที่คุณสนใจ
วัตถุประสงค์ทางธุรกิจของการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูล
การป้องกันภัยคุกคามด้านความปลอดภัย การละเมิด และกิจกรรมผิดกฎหมาย: Google ใช้และอาจเปิดเผยข้อมูลเพื่อตรวจหา ป้องกัน และตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ตลอดจนเพื่อป้องกันกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นอันตราย หลอกลวง ฉ้อโกง หรือผิดกฎหมาย ตัวอย่างเช่น Google อาจได้รับหรือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ IP ซึ่งผู้ดำเนินการที่ประสงค์ร้ายทำการบุกรุก เพื่อปกป้องบริการของเรา
การตรวจสอบและการวัดผล: Google ใช้ข้อมูลวิเคราะห์และการวัดผลเพื่อทำความเข้าใจวิธีที่ผู้ใช้ใช้บริการของเรา และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของเราที่มีต่อพาร์ทเนอร์ เช่น ผู้เผยแพร่โฆษณา ผู้ลงโฆษณา นักพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือผู้ถือครองสิทธิ เราอาจเปิดเผยข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคลไม่ได้ให้แก่สาธารณะและพาร์ทเนอร์เหล่านี้ รวมถึงเพื่อการตรวจสอบ
การดูแลรักษาบริการของเรา: Google ใช้ข้อมูลเพื่อดูแลให้บริการของเราทำงานตามที่คาดหวังไว้ เช่น การติดตามการหยุดให้บริการหรือการแก้ปัญหาและข้อบกพร่องอื่นๆ ที่คุณรายงานถึงเรา
การวิจัยและพัฒนา: Google ใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงบริการของเราและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฟีเจอร์ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้และสาธารณะ ตัวอย่างเช่น เราใช้ข้อมูลที่พร้อมใช้งานแบบสาธารณะเพื่อช่วยฝึกรูปแบบทางภาษาและสร้างฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเช่น Google แปลภาษา
การใช้ผู้ให้บริการ: Google แชร์ข้อมูลกับผู้ให้บริการเพื่อดำเนินการต่างๆ ในนามของเรา โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของนโยบายความเป็นส่วนตัว รวมถึงมาตรการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับและมาตรการด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมอื่นๆ ตัวอย่างเช่น เราอาจใช้ผู้ให้บริการเพื่อช่วยให้การสนับสนุนลูกค้า
การโฆษณา: Google ประมวลผลข้อมูลเพื่อการแสดงโฆษณา ได้แก่ ตัวระบุออนไลน์ กิจกรรมการค้นหาและการท่องเว็บ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของคุณและการโต้ตอบกับโฆษณา ซึ่งช่วยให้คุณใช้บริการของ Google รวมถึงเว็บไซต์และบริการหลายๆ อย่างได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย คุณควบคุมข้อมูลที่เราใช้แสดงโฆษณาให้คุณดูได้โดยไปที่การตั้งค่าโฆษณา
เหตุผลทางกฎหมาย: นอกจากนี้ Google จะใช้ข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยข้อมูลเพื่อตอบสนองต่อกระบวนการทางกฎหมายหรือคำขอของรัฐบาลที่มีการบังคับใช้ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย เราให้ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและประเภทคำขอที่ได้รับจากรัฐบาลไว้ในรายงานเพื่อความโปร่งใส
ผู้ที่เราอาจแชร์ข้อมูลให้
ผู้อื่นที่คุณเลือกที่จะแชร์ข้อมูลให้ เช่น เอกสารหรือรูปภาพ ตลอดจนวิดีโอหรือความคิดเห็นใน YouTube
บุคคลที่สามที่คุณยินยอมที่จะแชร์ข้อมูลของคุณ เช่น บริการต่างๆ ที่ผสานรวมกับบริการของ Google คุณตรวจสอบและจัดการแอปและเว็บไซต์ของบุคคลที่สามที่เข้าถึงข้อมูลของคุณได้ในบัญชี Google
ผู้ให้บริการ ตลอดจนธุรกิจหรือบุคคลที่เชื่อถือได้ที่ประมวลผลข้อมูลในนามของ Google โดยอิงตามวิธีการของเราและปฏิบัติตามข้อกำหนดของนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา รวมถึงมาตรการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับและมาตรการด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมอื่นๆ
ผู้ดูแลระบบโดเมน หากคุณทำงานหรือศึกษาในองค์กรที่ใช้บริการของ Google
หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหรือบุคคลที่สามรายอื่นๆ สำหรับเหตุผลทางกฎหมายที่อธิบายไว้ในส่วนการแชร์ข้อมูลของคุณ
เกี่ยวกับนโยบายนี้
เมื่อนโยบายนี้มีผลบังคับใช้
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้มีผลกับบริการทั้งหมดที่ Google LLC และบริษัทในเครือให้บริการ รวมถึง YouTube, Android และบริการต่างๆ ที่ให้บริการในเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม เช่น บริการโฆษณา นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่มีผลกับบริการที่มีนโยบายความเป็นส่วนตัวแยกต่างหากซึ่งไม่เป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่มีผลกับบริการต่อไปนี้
- แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัทและองค์กรอื่นๆ ที่โฆษณาบริการของเรา
- บริการที่บริษัทหรือบุคคลทั่วไปอื่นๆ ให้บริการ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์หรือเว็บไซต์ที่บริษัทหรือบุคคลทั่วไปดังกล่าวนำเสนอและอาจมีบริการของ Google ซึ่งนโยบายนี้มีผล ตลอดจนผลิตภัณฑ์หรือเว็บไซต์ที่แสดงแก่คุณในผลการค้นหาหรือลิงก์จากบริการของเรา
การเปลี่ยนแปลงของนโยบายนี้
เราเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว เราจะไม่ลดทอนสิทธิ์ของคุณภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้หากไม่ได้รับคำยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ เราระบุวันที่เผยแพร่การเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดไว้เสมอและเรามีบันทึกเวอร์ชันอื่นๆ ไว้ให้คุณอ่านด้วย หากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เราจะประกาศให้ทราบอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น (สำหรับบริการบางอย่างอาจรวมถึงการแจ้งเตือนทางอีเมลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว)
หลักปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้อง
บริการบางอย่างของ Google
ประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวต่อไปนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการบางอย่างของ Google
- Chrome และระบบปฏิบัติการ Chrome
- Payments
- Fiber
- Google Fi
- Google Workspace for Education
- Read Along
- YouTube Kids
- บัญชี Google ที่จัดการด้วย Family Link สำหรับบุตรหลานที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี (หรืออายุตามหลักเกณฑ์ในประเทศของคุณ)
- คำแนะนำด้านความเป็นส่วนตัวใน Family Link สำหรับเด็กและวัยรุ่น
- คอลเล็กชันเสียงพูดและเสียงซึ่งได้มาจากฟีเจอร์ที่บุตรหลานใช้ใน Google Assistant
หากคุณเป็นสมาชิกขององค์กรที่ใช้ Google Workspace หรือ Google Cloud Platform โปรดดูว่าบริการเหล่านี้รวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างไรในประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google Cloud
แหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ
ลิงก์ต่อไปนี้ไฮไลต์แหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้คุณดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของเรา
- บัญชี Google ของคุณมีการตั้งค่าหลายอย่างที่คุณใช้จัดการบัญชีได้
- การตรวจสอบความเป็นส่วนตัวนำคุณผ่านขั้นตอนการตั้งค่าความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับบัญชี Google
- ศูนย์ความปลอดภัยของ Google มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในตัว การควบคุมความเป็นส่วนตัว และเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยตั้งกฎกติกาพื้นฐานสำหรับการใช้สื่อดิจิทัลของครอบครัวของคุณทางออนไลน์
- คู่มือความเป็นส่วนตัวสำหรับวัยรุ่นของ Google มีคำตอบสำหรับคำถามยอดนิยมบางส่วนเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่เราได้รับ
- ความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดให้บริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดในการให้บริการนี้
-
เทคโนโลยีมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ต่อไปนี้
- วิธีที่ Google ใช้คุกกี้
- เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการโฆษณา
- วิธีที่ Google ใช้การจดจำรูปแบบเพื่อแยกแยะสิ่งต่างๆ เช่น ใบหน้าในรูปภาพ
- วิธีที่ Google ใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์หรือแอปที่ใช้บริการของเรา
คำสำคัญ
ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคลไม่ได้
นี่คือข้อมูลที่บันทึกไว้เกี่ยวกับผู้ใช้โดยไม่ได้ระบุหรืออ้างอิงถึงตัวตนของผู้ใช้แต่ละบุคคลอีกต่อไป
ข้อมูลส่วนบุคคล
นี่คือข้อมูลที่คุณแจ้งแก่เราและเป็นการระบุถึงตัวคุณ เช่น ชื่อ ที่อยู่อีเมล หรือข้อมูลสำหรับการเรียกเก็บเงิน หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ Google เชื่อมโยงถึงข้อมูลดังกล่าวได้ เช่น ข้อมูลที่เราเชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน
นี่คือข้อมูลส่วนบุคคลในหมวดหมู่ที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ เช่น ข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นความลับ ต้นกำเนิดเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ ความเชื่อทางการเมืองหรือศาสนา หรือข้อมูลเพศสภาพ
คุกกี้
คุกกี้เป็นไฟล์ขนาดเล็กที่ประกอบด้วยสตริงอักขระซึ่งส่งมายังคอมพิวเตอร์ของคุณเวลาที่เข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ เมื่อกลับไปที่เว็บไซต์เดิมอีกครั้ง คุกกี้จะยอมให้เว็บไซต์นั้นจดจำเบราว์เซอร์ของคุณไว้ คุกกี้อาจจัดเก็บค่ากำหนดของผู้ใช้และข้อมูลอื่นๆ ไว้ คุณกำหนดค่าเบราว์เซอร์ให้ปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมดหรือแจ้งเมื่อมีการส่งคุกกี้ได้ อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางอย่างของเว็บไซต์หรือบริการต่างๆ อาจทำงานผิดปกติหากไม่มีคุกกี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้คุกกี้และวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ เมื่อคุณใช้เว็บไซต์หรือแอปของพาร์ทเนอร์ของเรา
แคชข้อมูลของแอปพลิเคชัน
แคชข้อมูลของแอปพลิเคชันคือพื้นที่เก็บข้อมูลบนอุปกรณ์ แคชข้อมูลช่วยให้แอปพลิเคชันเว็บทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันโดยทำให้โหลดเนื้อหาได้เร็วขึ้น เป็นต้น
ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกัน
ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันคือสตริงอักขระที่ใช้เพื่อให้ระบุเบราว์เซอร์ แอป หรืออุปกรณ์ได้อย่างเฉพาะเจาะจง ตัวระบุต่างๆ จะแตกต่างกันไปในด้านความถาวร ความสามารถในการรีเซ็ตตัวระบุโดยผู้ใช้ และรูปแบบการเข้าถึง
ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันอาจใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การรักษาความปลอดภัยและการตรวจหาการประพฤติมิชอบ การซิงค์บริการต่างๆ เช่น กล่องจดหมายอีเมล การจำค่ากำหนด และการแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เช่น ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันซึ่งคุกกี้จัดเก็บไว้จะช่วยให้เว็บไซต์แสดงเนื้อหาในเบราว์เซอร์เป็นภาษาที่คุณต้องการได้ คุณกำหนดค่าเบราว์เซอร์ให้ปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมดหรือแจ้งเมื่อมีการส่งคุกกี้ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้คุกกี้
ในแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ไม่ใช่เบราว์เซอร์ ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันจะใช้เพื่อจำอุปกรณ์หรือแอปในอุปกรณ์ดังกล่าว เช่น ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันอย่างรหัสโฆษณาจะใช้เพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องในอุปกรณ์ Android และจัดการได้ในการตั้งค่าของอุปกรณ์ ผู้ผลิตอุปกรณ์อาจรวมตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันไว้ในอุปกรณ์ด้วย (บางครั้งเรียกว่ารหัสสากลที่ไม่ซ้ำกันหรือ UUID) เช่น หมายเลข IMEI ของโทรศัพท์มือถือ เช่น ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันของอุปกรณ์อาจใช้เพื่อปรับแต่งบริการของเราในอุปกรณ์ของคุณหรือวิเคราะห์ปัญหาของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับบริการของเรา
ที่อยู่ IP
อุปกรณ์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจะมีหมายเลขประจำ เรียกว่า ที่อยู่ Internet Protocol (IP) เนื่องจากโดยปกติแล้ว หมายเลขเหล่านี้มักกำหนดตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ที่อยู่ IP จึงมักสามารถใช้ระบุตำแหน่งต้นทางได้เมื่ออุปกรณ์นั้นๆ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
บัญชี Google
คุณเข้าถึงบริการบางอย่างของเราได้โดยลงชื่อสมัครใช้บัญชี Google และให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเรา (โดยทั่วไปคือชื่อ ที่อยู่อีเมล และรหัสผ่าน) เราจะใช้ข้อมูลบัญชีนี้เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ของคุณเวลาที่เข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google และป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงบัญชีของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณจะแก้ไขหรือลบบัญชีได้ทุกเมื่อโดยไปที่การตั้งค่าบัญชี Google
บันทึกเซิร์ฟเวอร์
เช่นเดียวกับเว็บไซต์ส่วนใหญ่ เซิร์ฟเวอร์ของเราจะบันทึกคำขอหน้าเว็บของผู้ใช้ในขณะเยี่ยมชมไซต์โดยอัตโนมัติ โดยทั่วไปแล้ว “บันทึกเซิร์ฟเวอร์” รวมถึงคำขอเว็บไซต์ของคุณ ที่อยู่ Internet Protocol ชนิดของเบราว์เซอร์ ภาษาของเบราว์เซอร์ วันที่และเวลาของคำขอของคุณ ตลอดจนคุกกี้หนึ่งไฟล์หรือมากกว่านั้นที่สามารถระบุเบราว์เซอร์ของคุณได้
รายการบันทึกทั่วไปสำหรับการค้นหา “รถยนต์” มีลักษณะดังนี้
123.45.67.89 - 25/Mar/2003 10:15:32 -
http://www.google.com/search?q=cars -
Firefox 1.0.7; Windows NT 5.1 -
740674ce2123e969
123.45.67.89
คือที่อยู่ Internet Protocol·ที่ ISP ของผู้ใช้กำหนดให้กับผู้ใช้ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอาจกำหนดที่อยู่ IP ที่แตกต่างกันในแต่ละครั้งที่ผู้ใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้บริการ25/Mar/2003 10:15:32
คือวันที่และเวลาของคำค้นหาhttp://www.google.com/search?q=cars
คือ URL ที่ขอ รวมถึงคำค้นหาFirefox 1.0.7; Windows NT 5.1
คือเบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการที่ใช้740674ce2123a969
คือรหัสคุกกี้ที่ไม่ซ้ำกันที่กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้โดยเฉพาะในครั้งแรกที่เข้าชม Google (ผู้ใช้ลบคุกกี้ออกได้ หากผู้ใช้ลบคุกกี้ออกจากคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เข้าชม Google ครั้งล่าสุด ในครั้งถัดไปที่ผู้ใช้เข้าชม Google จากอุปกรณ์เครื่องเดียวกันนี้ ระบบจะกำหนดรหัสคุกกี้ที่ไม่ซ้ำนี้ให้แก่อุปกรณ์ดังกล่าว)
พาร์ทเนอร์
พาร์ทเนอร์คือหน่วยงานที่อยู่ในกลุ่มบริษัท Google ซึ่งรวมถึงบริษัทที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคในสหภาพยุโรป ได้แก่ Google Ireland Limited, Google Commerce Ltd, Google Payment Corp และ Google Dialer Inc. ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทที่ให้บริการธุรกิจในสหภาพยุโรป
พิกเซลแท็ก
พิกเซลแท็กเป็นเทคโนโลยีประเภทหนึ่งที่วางไว้ในเว็บไซต์หรือภายในเนื้อหาอีเมลเพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตามกิจกรรมบางอย่างในเว็บไซต์ เช่น การดูเว็บไซต์หรือเมื่อมีการเปิดอีเมล พิกเซลแท็กมักใช้งานร่วมกับคุกกี้
พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเว็บในเบราว์เซอร์
พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเว็บในเบราว์เซอร์ช่วยให้เว็บไซต์จัดเก็บข้อมูลในเบราว์เซอร์ไว้ในอุปกรณ์ได้ เมื่อใช้ในโหมด "พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่อง" จะช่วยให้จัดเก็บข้อมูลข้ามเซสชันได้ ซึ่งทำให้เรียกข้อมูลได้แม้ว่าจะปิดเบราว์เซอร์ไปแล้วหรือเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาใหม่ เทคโนโลยีหนึ่งที่ช่วยให้ใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเว็บได้คือ HTML 5
อัลกอริทึม
ขั้นตอนหรือชุดกฎที่ควบคุมให้คอมพิวเตอร์ดำเนินการแก้ไขปัญหา
อุปกรณ์
อุปกรณ์คือคอมพิวเตอร์ที่ใช้เข้าถึงบริการของ Google ได้ เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป แท็บเล็ต ลำโพงอัจฉริยะ และสมาร์ทโฟน ถือว่าเป็นอุปกรณ์ทั้งหมด
URL ผู้อ้างอิง
URL (Uniform Resource Locator) ผู้อ้างอิงคือข้อมูลที่เบราว์เซอร์ส่งไปยังหน้าเว็บปลายทาง โดยทั่วไปจะส่งเมื่อคุณคลิกลิงก์ไปยังหน้าดังกล่าว URL ผู้อ้างอิงมี URL ของหน้าเว็บล่าสุดที่เบราว์เซอร์เข้าชม
บริบทเพิ่มเติม
กระบวนการทางกฎหมาย หรือการร้องขอข้อมูลจากทางราชการ
เช่นเดียวกับบริษัทด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารบริษัทอื่นๆ Google มักได้รับคำขอจากรัฐบาลและศาลทั่วโลกให้เปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้ การปฏิบัติตามคำขอทางกฎหมายเหล่านี้ตั้งอยู่บนรากฐานของการเคารพในความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลที่คุณเก็บไว้กับ Google ทีมกฎหมายของเราตรวจสอบคำขอทุกรายการ โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นคำขอประเภทใด และเรามักจะตีกลับคำขอที่กว้างเกินไปหรือที่ไม่ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมในรายงานเพื่อความโปร่งใสของเรา
การโฆษณาและบริการวิจัยในนามของผู้ลงโฆษณา
เช่น ผู้ลงโฆษณาอาจอัปโหลดข้อมูลจากโปรแกรมบัตรสะสมคะแนนของตนเพื่อให้เข้าใจประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้ดีขึ้น เราจัดเตรียมรายงานแบบรวมให้แก่ผู้ลงโฆษณาที่ไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลทั่วไปเท่านั้น
การดูและการโต้ตอบกับเนื้อหาและโฆษณา
เช่น เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดูและการโต้ตอบกับโฆษณาเพื่อที่จะจัดทำรายงานแบบรวมให้แก่ผู้ลงโฆษณา เช่น บอกให้ผู้ลงโฆษณาทราบว่าเราแสดงโฆษณาของเขาในหน้าเว็บหนึ่งและผู้ชมมองเห็นโฆษณาดังกล่าวหรือไม่ เราอาจวัดผลการโต้ตอบอื่นๆ ด้วย เช่น วิธีที่คุณเลื่อนเมาส์เหนือโฆษณา หรือคุณโต้ตอบกับหน้าที่มีโฆษณาปรากฏขึ้นมาหรือไม่
กิจกรรมของคุณในเว็บไซต์และแอปอื่นๆ
กิจกรรมนี้อาจมาจากการใช้บริการต่างๆ ของ Google ของคุณ เช่น จากการซิงค์บัญชีของคุณกับ Chrome หรือการเข้าชมเว็บไซต์และแอปที่ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google เว็บไซต์และแอปจำนวนมากเข้าเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google เพื่อปรับปรุงเนื้อหาและบริการของตน เช่น เว็บไซต์อาจใช้บริการโฆษณาของเรา (เช่น AdSense) หรือเครื่องมือวิเคราะห์ (เช่น Google Analytics) หรืออาจฝังเนื้อหาอื่นๆ (เช่น วิดีโอจาก YouTube) บริการเหล่านี้จะแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณกับ Google ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าบัญชีของคุณและผลิตภัณฑ์ที่ใช้งาน (เช่น เมื่อพาร์ทเนอร์ใช้งาน Google Analytics ร่วมกับบริการโฆษณาของเรา) อาจมีการเชื่อมโยงข้อมูลนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
เรียนรู้เพิ่มเติมว่า Google ใช้ข้อมูลอย่างไรเมื่อคุณใช้งานเว็บไซต์หรือแอปของพันธมิตรของเรา
ข้อมูลการชำระเงิน
เช่น หากคุณเพิ่มบัตรเครดิตหรือวิธีการชำระเงินอื่นๆ ลงในบัญชี Google คุณก็ใช้วิธีการชำระเงินเหล่านั้นซื้อสินค้าต่างๆ ในบริการของเราได้ เช่น แอปใน Play Store เราอาจขอข้อมูลอื่นๆ ด้วย เช่น หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของธุรกิจ เพื่อช่วยดำเนินการการชำระเงิน ในบางกรณี เราอาจต้องยืนยันตัวตนของคุณและอาจขอข้อมูลจากคุณเพื่อการยืนยันตัวตนด้วย
เราอาจใช้ข้อมูลการชำระเงินเพื่อยืนยันว่าคุณมีอายุครบตามข้อกำหนดด้วย เช่น หากคุณป้อนวันเกิดที่ไม่ถูกต้องซึ่งระบุว่าคุณอายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะมีบัญชี Google ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ใกล้อุปกรณ์ของคุณ
หากคุณใช้บริการตำแหน่งของ Google ใน Android เราช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปที่ต้องใช้ตำแหน่งของคุณได้ เช่น Google Maps หากคุณใช้บริการตำแหน่งของ Google อุปกรณ์จะส่งข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของอุปกรณ์ เซ็นเซอร์ (เช่น ตัวตรวจวัดความเร่ง) ตลอดจนเสาสัญญาณมือถือใกล้เคียงและจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi (เช่น ที่อยู่ MAC และความแรงของสัญญาณ) ไปให้ Google ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ช่วยระบุตำแหน่งของคุณ คุณใช้การตั้งค่าของอุปกรณ์เพื่อเปิดใช้บริการตำแหน่งของ Google ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อมูลเซ็นเซอร์จากอุปกรณ์ของคุณ
อุปกรณ์อาจมีเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับตำแหน่งและการเคลื่อนไหวของคุณได้ดียิ่งขึ้น เช่น ตัวตรวจวัดความเร่งอาจใช้เพื่อระบุความเร็ว และเครื่องวัดการหมุนอาจใช้เพื่อคำนวณหาทิศทางการเดินทางของคุณ
ข้อมูลเสียงพูดและเสียง
ตัวอย่างเช่น คุณเลือกได้ว่าจะให้ Google จัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้ลงในบัญชี Google หรือไม่เมื่อโต้ตอบกับ Google Search, Assistant และ Maps เมื่ออุปกรณ์ได้ยินคำสั่งการเปิดใช้งานเสียง เช่น "Ok Google" Google จะบันทึกเสียงพูดและเสียงของคุณ รวมถึงช่วง 2-3 วินาทีก่อนการเปิดใช้งาน ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ความปลอดภัยและความเชื่อถือได้
ตัวอย่างบางส่วนของวิธีที่เราใช้ข้อมูลของคุณเพื่อช่วยให้บริการของเราปลอดภัยและเชื่อถือได้มีดังนี้
- การรวบรวมและการวิเคราะห์ข้อมูลที่อยู่ IP และคุกกี้เพื่อป้องกันการละเมิดแบบอัตโนมัติ การละเมิดนี้เกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ เช่น การส่งสแปมไปยังผู้ใช้ Gmail, การขโมยเงินจากผู้ลงโฆษณาโดยการคลิกโฆษณาแบบฉ้อโกง หรือการตัดเนื้อหาออกโดยเรียกใช้การโจมตีแบบปฏิเสธการให้บริการแบบกระจาย (DDoS)
- ฟีเจอร์ “กิจกรรมล่าสุดของบัญชี” ใน Gmail จะช่วยให้คุณทราบว่ามีใครเข้าถึงอีเมลของคุณโดยที่คุณไม่รู้หรือไม่และเข้าถึงเมื่อใด ฟีเจอร์นี้จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมล่าสุดใน Gmail ให้คุณดู เช่น ที่อยู่ IP ที่เข้าถึงอีเมลขอองคุณ ตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนวันที่และเวลาที่เข้าถึง ดูข้อมูลเพิ่มเติม
โฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
คุณอาจเห็นโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยอิงตามข้อมูลจากผู้ลงโฆษณาด้วย เช่น หากคุณซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณา ผู้ลงโฆษณาอาจใช้ข้อมูลการเข้าชมดังกล่าวเพื่อแสดงโฆษณาให้คุณดู ดูข้อมูลเพิ่มเติม
โฆษณาที่มีประโยชน์กับคุณที่สุด
เช่น หากคุณดูวิดีโอเกี่ยวกับการทำขนมใน YouTube คุณอาจเห็นโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการทำขนมมากขึ้นเวลาท่องเว็บ เราอาจใช้ที่อยู่ IP เพื่อระบุตำแหน่งโดยประมาณของคุณด้วย เพื่อให้เราแสดงโฆษณาสำหรับบริการส่งพิซซ่าในละแวกใกล้เคียงหากคุณค้นหา “พิซซ่า” ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณา Google และเหตุผลที่คุณอาจเห็นโฆษณาบางอย่าง
ซิงค์กับบัญชี Google ของคุณแล้ว
เราจะบันทึกประวัติการท่องเว็บใน Chrome ลงในบัญชีเมื่อคุณเปิดใช้การซิงค์ Chrome กับบัญชี Google ของคุณไว้เท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
เช่น เราดำเนินการศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ทั่วโลกเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างต่อเนื่อง
ดูแลและปรับปรุง
เช่น เราวิเคราะห์วิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับโฆษณาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาของเรา
ดูแลให้บริการของเราทำงานได้อย่างที่ตั้งใจ
เช่น เราตรวจสอบระบบของเราอยู่เสมอเพื่อตรวจหาปัญหา และหากเราพบสิ่งผิดปกติในบางฟีเจอร์ การตรวจสอบข้อมูลกิจกรรมที่รวบรวมไว้ก่อนปัญหาจะเกิดขึ้นช่วยให้เราแก้ไขสิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น
ตรวจหาการละเมิด
เมื่อเราตรวจพบสแปม มัลแวร์ เนื้อหาผิดกฎหมาย และการละเมิดรูปแบบอื่นๆ ในระบบซึ่งละเมิดนโยบายของเรา เราอาจปิดใช้บัญชีของคุณหรือดำเนินการอย่างอื่นตามความเหมาะสม ในบางกรณี เราอาจรายงานการละเมิดต่อหน่วยงานที่เหมาะสมด้วย
ต้องใช้คุกกี้เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
เช่น เราใช้คุกกี้ที่เรียกว่า "lbcs" ซึ่งทำให้คุณเปิด Google เอกสารจำนวนมากในเบราว์เซอร์เดียวได้ การบล็อกคุกกี้นี้ทำให้ Google เอกสารทำงานไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ทำการปรับปรุง
เช่น เราใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์วิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับบริการของเรา และการวิเคราะห์ช่วยเราสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้นได้ เช่น การวิเคราะห์อาจช่วยให้เราทราบว่าผู้คนต้องใช้เวลานานเกินไปในการดำเนินการบางอย่าง หรือทำขั้นตอนบางอย่างไม่ได้เลย จากนั้นเราจะได้ออกแบบฟีเจอร์ดังกล่าวใหม่และปรับปรุงผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน
บริการที่จะโทรออกและรับสาย หรือส่งและรับข้อความ
ตัวอย่างบริการเหล่านี้มีดังนี้
- Google Voice สำหรับการโทรออกและรับสาย การส่ง SMS และการจัดการข้อความเสียง
- Google Meet สำหรับการโทรออกและรับสายวิดีโอคอล
- Gmail สำหรับการส่งและรับอีเมล
- Google Chat สำหรับการส่งและรับข้อความ
- Google Duo สำหรับการโทรออกและรับสายวิดีโอคอลและการรับส่งข้อความ
- Google Fi สำหรับแพ็กเกจมือถือ
บริการบางอย่างของ Google
เช่น คุณอาจลบบล็อกออกจาก Blogger หรือลบเว็บไซต์จาก Google Sites ที่คุณเป็นเจ้าของออกจาก Google Sites หรือจะลบรีวิวที่เขียนไว้เกี่ยวกับแอป เกม และเนื้อหาอื่นๆ ใน Play Store ก็ได้เช่นกัน
บุคคลที่สาม
เช่น เราประมวลผลข้อมูลของคุณเพื่อรายงานสถิติการใช้งานให้ผู้ถือสิทธิ์ทราบเกี่ยวกับการใช้งานเนื้อหาของเขาในบริการของเรา เราอาจประมวลผลข้อมูลของคุณหากมีคนค้นหาชื่อของคุณและเราแสดงผลการค้นหาของเว็บไซต์ที่มีข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับคุณด้วย
ป้องกันการละเมิด
เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยอาจช่วยให้เราแจ้งคุณได้เมื่อคิดว่ามีผู้บุกรุกบัญชีของคุณ (ซึ่งเราจะช่วยคุณดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อปกป้องบัญชีได้)
เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google
มีเว็บไซต์และแอปที่ไม่ใช่ของ Google กว่า 2 ล้านรายการที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google เพื่อแสดงโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ผลการค้นหาที่กำหนดเอง
เช่น เมื่อลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google และเปิดใช้ส่วนควบคุมกิจกรรมบนเว็บและแอปไว้ คุณจะได้รับผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องมากขึ้นซึ่งอิงตามการค้นหาและกิจกรรมก่อนหน้าจากบริการอื่นๆ ของ Google ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ คุณอาจได้รับผลการค้นหาที่กำหนดเองแม้จะออกจากระบบไปแล้วด้วย หากไม่ต้องการการปรับแต่งการค้นหาในระดับนี้ คุณอาจค้นหาและท่องเว็บแบบเป็นส่วนตัวหรือปิดการปรับเปลี่ยนการค้นหาในแบบของคุณเมื่อออกจากระบบ
ผู้คนที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณทางออนไลน์
เช่น เวลาคุณพิมพ์ที่อยู่ลงในช่อง "ถึง" "สำเนา" หรือ "สำเนาลับ" ของอีเมลที่กำลังเขียน Gmail จะแนะนำที่อยู่โดยอิงตามผู้คนที่คุณติดต่อบ่อยที่สุด
พาร์ทเนอร์บางราย
เช่น เราอนุญาตให้ครีเอเตอร์ YouTube และผู้ลงโฆษณาทำงานร่วมกับบริษัทวัดผลเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชมวิดีโอ YouTube หรือโฆษณา โดยใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกัน อีกตัวอย่างหนึ่งคือผู้ขายในหน้า Shopping ซึ่งใช้คุกกี้เพื่อดูข้อมูลจำนวนผู้ที่มองเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาร์ทเนอร์เหล่านี้และวิธีที่พาร์ทเนอร์ใช้ข้อมูลของคุณ
รวมข้อมูลที่เรารวบรวมมา
ตัวอย่างบางส่วนของวิธีที่เรารวมข้อมูลที่รวบรวมมามีดังนี้
- เวลาที่คุณลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google และค้นหาใน Google คุณจะเห็นผลการค้นหาจากเว็บสาธารณะ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากเนื้อหาที่คุณมีในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google เช่น Gmail หรือ Google ปฏิทิน ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลต่างๆ เช่น สถานะเที่ยวบินที่กำลังจะมาถึง ร้านอาหาร และการจองโรงแรม หรือรูปภาพของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- เช่น หากคุณได้ติดต่อกับใครบางคนผ่าน Gmail และต้องการเพิ่มเขาใน Google เอกสารหรือกิจกรรมใน Google ปฏิทิน Google ช่วยให้คุณทำสิ่งเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นด้วยการเติมที่อยู่อีเมลของพวกเขาโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเริ่มพิมพ์ชื่อพวกเขา ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณแชร์สิ่งต่างๆ กับผู้คนที่คุณรู้จักได้ง่ายขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- แอป Google ใช้ข้อมูลที่คุณเก็บไว้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google เพื่อแสดงเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า เช่น หากคุณจัดเก็บการค้นหาไว้ในกิจกรรมบนเว็บและแอป แอป Google จะแสดงบทความข่าวและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่คุณสนใจ เช่น ผลการแข่งขันกีฬา โดยอิงตามกิจกรรมของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- หากคุณลิงก์บัญชี Google ไว้กับ Google Home คุณจะจัดการข้อมูลและทำสิ่งต่างๆ ได้ผ่าน Google Assistant เช่น คุณอาจเพิ่มกิจกรรมลงใน Google ปฏิทินหรือขอดูกำหนดการของแต่ละวัน สอบถามอัปเดตสถานะเที่ยวบินที่กำลังจะมาถึง หรือส่งข้อมูลอย่างเช่นเส้นทางการขับขี่ไปยังโทรศัพท์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
แสดงเทรนด์
เมื่อผู้คนมากมายเริ่มค้นหาบางสิ่ง เรามอบข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเทรนด์บางอย่าง ณ เวลานั้นได้ Google เทรนด์ใช้ตัวอย่างจาก Google ค้นเว็บเพื่อคาดคะเนความนิยมของการค้นหาในช่วงเวลาที่กำหนด และแชร์ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวต่อสาธารณะในแบบสรุปรวม ดูข้อมูลเพิ่มเติม
หมวดหมู่ที่ละเอียดอ่อน
เวลาแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เราจะใช้หัวข้อที่เราคิดว่าคุณจะสนใจโดยอิงตามกิจกรรมของคุณ เช่น คุณอาจเห็นโฆษณาสำหรับ "การทำอาหารและสูตรอาหาร" หรือ "การเดินทางทางอากาศ" เราจะไม่ใช้หัวข้อหรือแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยอิงตามหมวดหมู่ที่ละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ศาสนา รสนิยมทางเพศ หรือสุขภาพ และเรากำหนดให้ผู้ลงโฆษณาที่ใช้บริการของเราปฏิบัติเช่นเดียวกัน
หมายเลขโทรศัพท์
หากคุณเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ลงในบัญชี อาจมีการใช้หมายเลขโทรศัพท์ของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ในบริการของ Google ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า เช่น อาจมีการใช้หมายเลขโทรศัพท์เพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงบัญชีได้หากลืมรหัสผ่าน ช่วยให้ผู้อื่นค้นพบและติดต่อกับคุณได้ และทำให้โฆษณาที่คุณเห็นมีความเกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
แหล่งที่มาที่เข้าถึงได้แบบสาธารณะ
ตัวอย่างเช่น เราอาจรวบรวมข้อมูลที่พร้อมใช้งานแบบสาธารณะหรือจากแหล่งที่มาสาธารณะอื่นๆ เพื่อช่วยฝึกรูปแบบทางภาษาและสร้างฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเช่น Google แปลภาษา หรือหากข้อมูลธุรกิจของคุณปรากฏในเว็บไซต์ เราก็อาจจัดทำดัชนีไว้และแสดงในบริการของ Google
ให้บริการของเรา
ตัวอย่างของวิธีที่เราใช้ข้อมูลของคุณเพื่อให้บริการของเรามีดังนี้
- เราใช้ที่อยู่ IP ที่กำหนดให้อุปกรณ์ของคุณเพื่อส่งข้อมูลที่คุณขอให้แก่คุณ เช่น การโหลดวิดีโอ YouTube
- เราใช้ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันซึ่งจัดเก็บไว้ในคุกกี้ในอุปกรณ์เพื่อช่วยตรวจสอบสิทธิ์ว่าคุณคือผู้ที่ควรมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี Google
- เราจะใช้รูปภาพและวิดีโอที่คุณอัปโหลดไปยัง Google Photos เพื่อช่วยคุณสร้างอัลบั้ม ภาพเคลื่อนไหว และผลงานสร้างสรรค์อื่นๆ ที่คุณแชร์ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- เราอาจใช้อีเมลยืนยันเที่ยวบินที่คุณได้รับเพื่อสร้างปุ่ม “เช็คอิน” ที่ปรากฏขึ้นใน Gmail ของคุณ
- เมื่อซื้อบริการหรือสินค้าต่างๆ จากเรา คุณอาจให้ข้อมูลกับเรา เช่น ที่อยู่สำหรับจัดส่งหรือวิธีการนำส่ง เราใช้ข้อมูลนี้เพื่อทำสิ่งต่างๆ เช่น ประมวลผล ดำเนินการ และนำส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อของคุณ ตลอดจนเพื่อให้การสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณซื้อ
อาจลิงก์ข้อมูล
Google Analytics ต้องใช้คุกกี้บุคคลที่หนึ่ง ซึ่งหมายความว่าลูกค้า Google Analytics จะเป็นคนตั้งค่าคุกกี้ Google หรือลูกค้า Google Analytics อาจใช้ระบบของเราลิงก์ข้อมูลที่สร้างผ่าน Google Analytics กับคุกกี้ของบุคคลที่สาม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเข้าชมเว็บไซต์อื่นๆ เช่น ผู้ลงโฆษณาอาจต้องการใช้ข้อมูล Google Analytics เพื่อสร้างโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากขึ้นหรือเพื่อวิเคราะห์การเข้าชมของตนต่อไป ดูข้อมูลเพิ่มเติม
อุปกรณ์
เช่น เราอาจใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์เพื่อช่วยคุณตัดสินใจเลือกอุปกรณ์ที่จะติดตั้งแอปหรือดูภาพยนตร์ที่ซื้อจาก Google Play เราอาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อช่วยปกป้องบัญชีของคุณด้วย
อุปกรณ์ Android ที่มีแอป Google
อุปกรณ์ Android ที่มีแอป Google รวมถึงอุปกรณ์ที่ Google หรือพาร์ทเนอร์ของเราขาย เช่น โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป รถยนต์ อุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ และทีวี อุปกรณ์เหล่านี้ใช้บริการ Google Play และแอปที่ติดตั้งมาล่วงหน้าอื่นๆ ซึ่งรวมถึงบริการอย่าง Gmail, Maps, กล้องถ่ายรูปและแป้นโทรศัพท์ของโทรศัพท์, การอ่านออกเสียงข้อความ, การป้อนข้อมูลด้วยแป้นพิมพ์ และฟีเจอร์ความปลอดภัย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Google Play